จงเป็นคนโสดที่มีบุญ ไม่ใช่โสดเพราะไร้วาสนา
จงเป็นคนโสดที่มีบุญ ไม่ใช่โสดเพราะไร้วาสนา

จงเป็นคนโสดที่มีบุญ ไม่ใช่คนโสดเพราะชาตินี้ไร้วาสนา คนโสดที่ปรารถนาการพ้นทุกข์ หลุดพ้นการเวียนว่าย ตายเกิดความโสดนี้ น่าจะมาจากผลกรรมดี อันเป็นบุญเดิมของเค้า ส่วนคนโสด ที่ไม่ได้สนใจเรื่องศีล สมาธิ ภาวนา ความโสดนี้น่าจะมาจากกรรมไม่ดีที่แสดงผลต่อเบ้าหน้า ฐานะ ผิวพรรณ อุปนิสัยต่างๆ จึงทำให้โสด คนโสด หลายคน ก็ไม่อยากเป็นโสด
บางคนถึงกับพูดว่า ฉันยอมเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเพื่อให้เข้ากับคนที่ฉันรักได้ บางคนก็บอกว่าฉันดูแลตัวเองได้ ดูแลครอบครัวได้ มีรายได้พอเลี้ยงตนเอง เลี้ยงลูกตามลำพังได้ ขอเพียงรักฉันก็พอ ฉันไม่ขออะไรอีก บางคนคิดว่าปัญหาอยู่ที่โอกาสพบคนน้อย ไม่ว่าจะเพราะที่อยู่ ที่ทำงาน ที่เรียน หรือ ที่ดำเนินชีวิตไม่มีโอกาพบคนมาก ๆ

บางคนคิดว่าเป็นกรรมเก่า พรหมไม่ลิขิตหรือเกิดจากสิ่งนอกเหนือการควบคุมแต่จริง ๆ แล้ว เรามีโอกาสพบรักและแต่งงานมีชีวิตคู่ตลอดทุกช่วงอายุของเรา ตั้งแต่วัยเด็กจนถึงไม่กี่วันก่อนตายด้วยความชราขึ้นกับว่าเราจริงจังกับความต้องการชีวิตคู่หรือเปล่าสมัยก่อน เป็นสิ่งน่าอาย ถ้าบอกว่าผู้หญิงต้องการชีวิตคู่ ต้องการสามีแต่ที่จริงแล้ว เป็นความต้องการปรกติของคน ที่จะต้องการความรัก ต้องการคนรัก ถ้าจะจำกัดให้แคบ ๆ ว่า มีอะไรที่ต้องปรับปรุงหรือมีอะไรที่คนมีคู่กับคนไม่มีคู่ต่างกัน
สิ่งนั้นคือ ทัศนคติคนที่กลัวสารพัด กลัวคนหลอก กลัวผิดหวัง กลัวไม่ได้ดังใจ กลัวขายหน้ามักจะกลัวทุกอย่าง ยกเว้น กลัวอยู่คนเดียวในสหรัฐอเมริกา คนกลัวมาก ไม่ใช่กลัวอยู่คนเดียว แต่กลัวตายคนเดียว จนเป็นคำด่าว่า “คนอย่างเธอ ต้องตายคนเดียวอย่างเปล่าเปลี่ยว” พอคนอายุมากขึ้น ความสามารถในการพึ่งตนเอง ก็ลดลงด้วยเพราะร่างกายไม่แข็งแรง ฟื้นตัวช้าและเจ็บซ้ำบ่อย ป่วยซ้ำบ่อย

หากเราเป็นคนหนึ่งที่คิดว่า ฉันมีพี่น้องมีลูกหลานมีเงิน มีสมบัติ มีคนใกล้ชิด มีคนดูแลเรากำลังคิดในทางที่ไม่ถูกต้อง ถ้ามีใครสักคนที่จะดูแลเรายามแก่ ป้อนน้ำ ป้อนอาหารเรา อาบน้ำ สระผม แปรงฟันให้เราพาเราไม่สูดอากาศ ตากแดด รับไออุ่น ในยามที่เราเจ็บป่วย พิการ หรือเป็นอัมพาต ไม่ใช่เพียง 1-2 ปีแรก แต่เป็น 10 ปี หรือ 20-30 ปี คนนั้นคือ สามี หรือ ภรรยา ที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาไม่ใช่พี่น้อง ลูก ๆ หรือ หลาน ๆ คนเหล่านี้จะทนทำได้ไม่นาน

ทัศนคติว่าฉันเก่ง ฉันอยู่ได้ ฉันไม่ง้อใคร ฉันเป็นคนเลือก ฉันไม่ใช่ตัวเลือกทุกอย่างที่ สอนให้เราแกร่ง เราไม่ต้องพึ่งพาใครนี่แหละ ที่ทำให้เราเป็นโสดที่กาญจนบุรี จุดที่แควน้อยและแควใหญ่มาบรรจบกันเราจะเห็นชัดเจนว่า น้ำจากสองแควมีสองสี ต่างมีสีของตนเองแต่เมื่อมาบรรจบกัน มันจะหลอมรวมกันเป็นแม่น้ำสายเดียว มีสีเดียว เราแต่ละคน เติบโตมา ในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน 20 ปีบ้าง 30 ปีบ้าง การจะอยู่ร่วมกันกับคนอื่นที่ เติบโตมา ในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน 20 ปีบ้าง 30 ปีเช่นกัน ย่อมไม่ง่ายถ้าเรายืนยันว่า ฉันต้องเป็นอย่างนี้ เธอต้องปรับเข้าหาฉันหรือฉันแก่เกินกว่าจะปรับตัวแล้วเราก็เหมือนถูกลิขิตมาให้ตายคนเดียว

ขอขอบคุณข้อมูล verrysmilejung.com