“บวชจิต” คนไม่รู้ แต่ผีรู้ เทวดารู้ หลวงปู่ดู่แนะวิธีการ สำหรับผู้ไม่พร้อมอยู่วัด
“บวชจิต” คนไม่รู้ แต่ผีรู้ เทวดารู้ หลวงปู่ดู่แนะวิธีการ สำหรับผู้ไม่พร้อมอยู่วัด

“การบวชจิต” หรือ “การบวชใน” นั้นเป็นสูตรของ “หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ”หลวงปู่ดู่กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า…“การบวชทั้งในและนอกมันลำบากในยุคนี้เราบวชใน คนไม่รู้ แต่ผีรู้ เทวดารู้ การบวชในเป็นกรรมฐานอย่างหนึ่ง เวลาทำบุญให้นึกว่าตัวเองเป็นพระ…จะได้ชิน ถ้าทำบ่อย ๆ จะเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ

เวลาทำความดีอะไรก็ตาม…ให้นึกว่าตัวเองเป็นพระ มันจะปรับออกมาข้างนอกเอง เป็นการบวชจากข้างในไปหาข้างนอก คือ ด้วยรูปลักษณ์ในการบวชที่เป็นพระนั้น พอเราบวชแล้ว เราจะไม่กล้าทำอะไรที่ไม่ดี เวลาเราแผ่บุญออกไป พลังงานก็ผ่านเราออกไปได้มากกว่า
พลังงานนี้จะผ่านพระได้มากกว่าฆราวาสนะ… ลองคิดดูสิ เราเป็นพระนะ (บวชใน) แค่เรานึกนี่ก็เป็นแล้ว ทำไม่เกินสามปีจะรู้สึกว่าเราเป็นพระ เรื่องอะไรที่ไม่ดี เราจะไม่พูด ไม่ทำ แม้แต่ในฝันยังเป็นพระเลย บวชจิตแล้วต้องสึกไหม…ไม่ต้อง มันไม่เกี่ยวกัน เรื่องโลกกับเรื่องธรรมเป็นคนละเรื่อง เวลาอยู่ทางโลกก็อยู่ไป เมื่อไรอยู่ทางธรรมเราก็บวชใน

ตื่นขึ้นมาก็ให้ทำ แล้วกราบพระ ๖ ครั้ง แล้วทำวัตรสั้น ๆ อาราธนาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่องค์ปฐมถึงองค์ปัจจุบัน เวลากินข้าว อาบน้ำ เวลาว่าง เวลานอน ให้สวด ให้ภาวนา จนกว่าจะหลับ … สามปีจะรู้สึกว่า ข้างนอกจะเปลี่ยนทรงอารมณ์แบบนี้มีอานิสงส์มหาศาล… เป็นบุญทุกลมหายใจเข้าออก”หลวงปู่ดู่ได้แนะเคล็ดในการบวชจิตไว้ว่า

“ในขณะที่เรานั่งสมาธิเจริญภาวนานั้น คำกล่าวว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิให้นึกถึงว่าเรามีพระพุทธเจ้าเป็นพระอุปัชฌาย์ของเรา ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ให้นึกว่าเรามีพระธรรมเป็นพระกรรมวาจาจารย์ สังฆัง สรณัง คัจฉามิให้นึกว่าเรามีพระอริยสงฆ์เป็นพระอนุสาวนาจารย์แล้วอย่าสนใจขันธ์ ๕ หรือร่างกายเรานี้ … ให้สำรวมจิตให้ดี มีความยินดีในการบวชชายก็ตั้งจิตเป็นพระภิกษุ หญิงก็ตั้งจิตเป็นพระภิกษุณีอย่างนี้จะมีอานิสงส์สูงมาก … จัดเป็นเนกขัมมบารมีขั้นอุกฤษฏ์ทีเดียว”

ขอขอบคุณข้อมูล jitpensook อ่านเพิ่มเติมดูข่าวต้นฉบับได้ที่ http://www.jitpensook.com