เชื่อ ร.5 เสด็จลงมาประทับทุกคืนวันอังคาร ที่พระบรมรูปทรงม้าบูชาเสริมชีวิตเจริญก้าวหน้า ค้าขายปลดหนี้
เชื่อ ร.5 เสด็จลงมาประทับทุกคืนวันอังคาร ที่พระบรมรูปทรงม้าบูชาเสริมชีวิตเจริญก้าวหน้า ค้าขายปลดหนี้

“พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ “หรือพระบรมรูปทรงม้าตั้งอยู่ที่ลาน พระบรมรูปทรงม้าสร้างขึ้นในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยนำแบบอย่างมาจาก พระบรมรูปของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศสที่กรุงปารีส ด้วยฝีมือนายช่างชาวฝรั่งเศส บริษัท ซุซ แฟรส์ ฟองเดอร์ (Susse Frères Fondeur) ในวโรกาส ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ 2เมื่อ พ.ศ.2450 พระองค์เสด็จประทับให้ช่างปั้นชื่อ จอร์จ เซาโล(Georges Saulo) ปั้นเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2450 พระบรมรูปสำเร็จเรียบร้อยส่งเข้ามาถึงกรุงเทพฯ

เมื่อ วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน 2451 อันเป็นเวลาพอดีกับงานพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษกเนื่องในโอกาสเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ 40 ปี เจ้าพนักงานได้อัญเชิญพระบรมรูปทรงม้าขึ้นประดิษฐานบนแท่นรองหน้าพระราชวังดุสิตโดยพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จไปทรงทำพิธีเปิดด้วยพระองค์เองพระบรมรูปทรงม้าสร้างขึ้นด้วยเงินที่ประชาชนได้เรี่ยไรสมทบทุนส่วนเงินที่เหลือเป็นจำนวนมาก พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้นำไปสร้างมหาวิทยาลัยขึ้น
มีนามตามพระปรมาภิไธยว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นมหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของประเทศไทยสำหรับองค์พระบรมรูปทรงม้านั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้เสด็จไปทำการตกลงและเลือกชนิดโลหะด้วยพระองค์เอง อีกทั้งยังเสด็จไปประทับเป็นแบบให้นายช่างปั้นหุ่น ขณะเสด็จประทับอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งพระรูปมีขนาดโตเท่าพระองค์จริงเสด็จประทับอยู่บนหลังม้าพระที่นั่งโดยม้าพระที่นั่งนั้นมิใช่ปั้นจากแบบม้าพระที่นั่งจริง

แต่เป็นม้าที่บริษัทได้ปั้นเป็นแบบเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว.พระบรมรูปทรงม้าหล่อด้วยโลหะทองบรอนซ์ยึดติดกับแท่นทองบรอนซ์เป็นที่ม้ายืน หนาประมาณ 25 เซนติเมตร ประดิษฐานบนแท่นรองทำด้วยหินอ่อน สูง 6 เมตร กว้าง 2 เมตร ยาว 5 เมตร ห่างจากฐานของแท่นออกมามีโซ่ขึงล้อมรอบกว้าง 9 เมตร ยาว 11 เมตร ตรงฐานด้านขวามีอักษรโรมันภาษาฝรั่งเศสจารึกชื่อช่างปั้นและช่างหล่อชาวไว้ว่า C.MASSON SEULP 1908 และ G.Paupg Statuareและด้านซ้ายเป็นชื่อบริษัทที่ทำการหล่อพระบรมรูปทรงม้าว่า SUSSE Fres FONDEURS. PARIS
สำหรับแท่นศิลาอ่อนด้านหน้า มีแผ่นโลหะจารึกอักษรไทยติดประดับแสดงพระบรมราชประวัติและพระเกียรติคุณลงท้ายด้วยคำถวายพระพรให้ทรงดำรงราชสมบัติอยู่ยืนนาน สิ่งที่นิยมใช้สักการบูชาคือ ดอกกุหลาบสีชมพู ด้วยความเชื่อที่ว่า ดอกกุหลาบที่มีความงามและมีหนามแหลมคม (คืออำนาจ) หากนำมาบูชาจะทำให้ผู้บูชามีอำนาจ และสีชมพูยังเป็นสีของวันอังคาร (วันพระราชสมภพ)

นอกจากนี้ประชาชนบางคนยังนิยมจัดเป็นโต๊ะบูชาส่วนใหญ่ประกอบด้วย
-เชิงเทียน -หมากพลู-บายศรี -บุหรี่
-เหล้า/ไวน์ -สตางค์ -น้ำมนต์ -กระถางธูป
ซึ่งถือเป็นการจัดอย่างบูชา เทพ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเปรียบพระองค์เสมือนดั่งเทพยดาที่ปกปักษ์รักษาประเทศชาติและราษฎรให้อยู่รอดปลอดภัย และเจริญก้าวหน้ามาโดยตลอด พระคาถาสำหรับบูชารัชกาลที่ 5 มากมายหลายหลายพระคาถาเช่น พระคาถาที่กล่าวกันว่านำสุดยอดพระคาถาอื่นๆ มารวมกันคือสยามเทวะนุภาเวนะ สยามะเทวะเตชะสา ทุกขะโรคะภะยา เวรา โสภา สันตุ จะปัททะวา อเนกา อันตะรายาปี วินัสสันตุ อะเสสะโต ชะยะสิทธิ ธะนัง ลาภัง โสตภิภาคะยัง สุขัง พลัง สิริ อายุ จะวัณโณจะ โภคัง วุฑฒิจะ ยะสะวา สะตะวัสสา จะ อายุ จะ ชีวะสิทธี ภะวันต เม ส่งต่อให้ลูกหลานได้เรียนรู้ถึงประวัติโดยสังเขปของพระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5

ขอขอบคุณข้อมูล vrthainews อ่านเพิ่มเติมดูข่าวต้นฉบับได้ที่ https://vrthainews.com