ครอบครัว

ใส่ใจในบ้านให้มากกว่าคนนอกบ้าน โลกนี้มีคนน่าสงสารอยู่ 2 แบบ แบบแรก ชีวิตนี้ห่างไกลเกิดมาไม่เคยได้กลิ่นหอมดอกไม้ แบบสอง อยู่ใกล้ดอกไม้มาตลอดชีวิตชินกลิ่นดอกไม้จนไม่รู้สึกหอมเช่นเดียวกันกับคนดีๆรอบข้างตัวเราอย่างคนในครอบครัว คนที่รักและแคร์เรา เรามักจะชินกับความดีที่เขามีให้จนเรามองไม่เห็นความสำคัญเหมือนชินกลิ่นดอกไม้หอมอย่าทำดีกับคนไกลตัว แต่ทำชั่วกับคนใกล้ชิด หากคิดแบบนั้นก็จงอย่ามีคำว่าครอบครัวเรียกว่าผู้ร่วมอาศัยง่ายกว่า หากวันนี้คุณยังให้เวลากับเรื่องนอกบ้านคนนอกมากกว่าคนในบ้าน หรือ ครอบครัววันนึงคุณอาจหันกลับมาไม่เจอใครอีกเลยจงอย่ารอถึงวันสุดท้าย วันที่สายไป เพราะอะไรก็ย้อนกลับไปไม่ได้อีกเลยไม่มีใครทนเจ็บซ้ำๆที่เดิมได้ตลอดไปไม่มีใครทนเพื่อรอคอยอะไรได้ตลอดไป ไม่มีใครนั่งรอดูสิ่งที่เปลี่ยนไปให้แย่ลงได้ทุกๆวัน ขอขอบคุณที่มา kaewsaiidea

รักเมีย เชื่อฟังเมีย ชีวิตมีแต่จะเจริญ การที่สามีถูกภรรยาบ่นเป็นลาภอันประเสริฐ อันนี้ไม้รู้ว่าจริงแท้แค่ไหน หลาย ๆ คนหลังจากที่คุณภรรยาโทรมาหานาน ๆ ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันดี แต่พอกลับมาก็จะกล่าวคำนี้และคุณพ่อบ้านอีกหลายคน ก็ได้กล่าวไว้เช่นกันนะ ใครเคยได้ยินบ้าง หรือเป็นเพียงข้ออ้างแก้เขินเพราะกลัวเพื่อนหยอกว่ากลัวภรรยา เราคงมีคำถามที่ว่าทำไมถึงกลัวภรรยา คำถามนี้มีผู้ตอบมากมายหลายทาง ขอหยิบยกมาเล่าให้ฟังว่าเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประกอบการตัดสินใจของคุณพ่อบ้านท่าน ๆต่อไป นอกจากนี้บทความนี้ยังจะกล่ าวถึงประโยชน์ของการบ่นไว้อีก

พูดจาเพราะๆ กับครอบครัว ลองอ่านดูเขียนได้ดีมากๆ อีกหนึ่งแนวคิดดีๆ สำหรับคนเราต้องคอยให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ในเวลาทุกข์ยาก หยุดโทษตนเองและกลับมาให้อภัยผู้อื่น เพื่อก้าวผ่านเรื่องร้ายๆ ที่ผ่านมาเมื่อปีที่แล้ว บางครั้งปัญหาที่ผ่านเข้ามาเวลาจะพาให้ผ่านไปจะเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ทำชีวิตให้ง่ายๆ ไม่ต้องซับซ้อนไม่ต้องคิดมากกับทุกๆเรื่อง จนทำให้เป็นภาระ พยายามมองโลกตามความเป็นจริงเสมอๆ ทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเราจงมีความสุขกับสิ่งที่เรามีอยู่หยุดเปรียบเทียบชีวิต ของเรากับผู้อื่น จงหัวเราะเมื่อมีโอกาส จงร้องให้ถ้ามันไม่ไหวจริงๆ

ข้อดีของคนที่มี “พี่น้องรักกัน” เขียนไว้ดีมากๆ เคล็ดลับข้อความดีๆ สำหรับคนที่มีพี่มีน้องเป็นบทความที่ให้สติได้ดีมาก ชีวิตเรานั้น มีทั้งสุขสบายและลำบากกันทั้งนั้น ไม่ว่าเธอสุขกายสบายใจ ไม่ว่าจะทุกข์กายและจิตใจ ต้องจำไว้อย่างนึงสำหรับคนที่มีพี่มีน้อง เพราะว่าคุณนั้นเกมโชคดีที่คุณไม่ต้องต่อสู้ ความยากลำบากเพียงลำพัง แล้วคุณก็ยังสู้และยังเห็นพี่เห็นน้องคุณอยู่ข้างๆ โบราณว่าไว้ พี่น้องนั้น เป็นเสมือนทรัพย์หินที่มีค่า ที่พ่อแม่เรานั้นได้สร้างไว้ให้ตั้งแต่เรายังเล็ก ไม่ว่าเวลาจะไปนานแค่ไหนพี่ก็ยังเป็นพี่ น้องก็ยังเป็นน้องเดิม ไม่ว่าเราจะเกิดปัญหาหรือการทะเลาะกับใครทั้งหลาย

ครอบครัวล่มแน่นอน ชีวิตต้องหย่าร้าง มันมีแค่ 3 เหตุผล เมื่อเป็นเช่นนี้เราจึงขอพูดถึง “3 ปัญหาที่พาชีวิตครอบครัวล่ม” ของคู่รักหรือสามีภรรยาชาว 40 พลัส ส่วนจะมีปัญหาอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย อ้อ เรามีวิธีแก้ไขปัญหามาฝากด้วยนะ 1.สามีหรือภรรยานอกใจ ปัญหานี้พบเห็นได้บ่อยในสังคมไทยยุคปัจจุบันนี้ และเป็นสาเหตุของการหย่าร้างหรือทำให้คนในครอบครัวต้องเหินห่างกันไปในที่สุด จนก่อให้เกิดปัญหากับเด็กๆ หรือลูกๆ

อ่านเตือนสตินะ ถึงคนที่กำลังหลงคนอื่นจนไม่สนใจคนในครอบครัวตัวเอง คอยให้ “กำลังใจ” กันในยาม“ทุกข์”เมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นเลิกโทษอีกฝ่ายเพื่อก้าวผ่านเรื่องร้ๅยๆไปให้ได้ “ปัญหา” ที่ผ่านเข้ามา“เวลา”จะพาให้ผ่านออกไปจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ให่ท่องเอาไว้ว่า  “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”ทำ“ชีวิตรัก”ให้“เรียบง่าย”ไม่ซับซ้อน“ไม่คิดมาก”กับทุกเรื่องจน“กังวล” มองโลกตาม “ความเป็นจริง”แต่ไม่ต้อง“วิตกจริต”ทำความเข้าใจ กับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต “มีความสุข” กับ “สิ่งที่มี”เลิก “เปรียบเทียบ”แฟนตัวเองกับแฟนคนอื่นทำให้คนที่เรารักหัวเราะอย่าง “มีความสุข”เมื่อยังมีโอกาสหัวเราะด้วยกัน“ปลอบใจ”ยามร้องไห้ เมื่อยังมีโอกาส ไม่ให้รู้สึกแย่ไปกว่านี้เพื่อให้  “ชีวิตรัก”สมดุล อย่าจมกับอดีตอย่าคาดหวังอนๅคตทำให้ปัจจุบันให้มีค่าและเก็บเกี่ยวความทรงจำดีๆไว้หายใจลึกค่อยๆมองไปข้างหน้า

การไม่จัดงานเเต่งงาน ไม่ได้เเปลว่าไม่ให้เกียรติพ่อเเม่ เเต่ละครอบครัวมีภาระแตกต่างกัน สำหรับคนรักกันแล้ว “การแต่งงาน” เป็นการเริ่มต้นของขีวิตคู่แบบจริงจัง เป็นการประกาศให้ญาติผู้ใหญ่รู้ว่าคนสองคนจะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุข และดูแลกันไปจนแก่เฒ่า ในอดีตถึงแม้ว่าการแต่งงานจะเป็นการผูกมัดทั้งสองฝ่ายให้อยู่ด้วยกันแล้วแต่พบว่าในปัจจุบัน เป็นเพียงการเริ่มต้นชีวิตเท่านั้uบางคนจัดงานแต่งหนึ่งครั้งใช้งบประมาณจำนวนมากบางคนถึงกับต้องกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อทำการแต่งงานทั้ง ๆ ที่ยังไม่พร้อม บางครอบครัวพ่อแม่มีให้ สนับสนุนฝ่ายชายก็ถือว่าโชคดีไปแต่ที่ปริญญาชีวิตจะนำมาแนะนำวันนี้เป็นเพียงแนวคิดหนึ่งของการแต่งงานแบบสมัยใหม่ซึ่งไม่จำเป็นต้องโอ้อวด หรือว่าจัดงานใหญ่โตแต่อย่างใดขอเพียงแค่ครอบครัวทั้งสองฝ่ายรับทราบด้วยกันเท่านั้uก็เพียงพอแล้วโดยไม่กี่วันที่ผ่านมา สมาชิกเฟซบุ๊กท่านหนึ่งได้โพสต์ระบุว่า มีเรื่องมาเล่าพ่อของแฟนพูดมาคำนึงหาก “ชีวิตคู่เริ่มต้นด้วยไปกู้หนี้ยืมสินมาแต่งงาน มันมีความสุขจริง ๆ

ฝากถึงคนที่กำลังหลงคนอื่น จนไม่สนใจในครอบครัว (อ่านเตือนสติ) คอยให้ “กำลังใจ” กันในยาม“ทุกข์”เมื่อมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นเลิกโท ษอีกฝ่าย เพื่อก้าวผ่านเรื่องร้ายๆไปให้ได้ “ปัญหา” ที่ผ่านเข้ามา “เวลา” จะพาให้ผ่านออกไปจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ให่ท่องเอาไว้ว่า “เดี๋ยวมันก็ผ่านไป” ทำ “ชีวิตรัก” ให้ “เรียบง่าย” ไม่ซับซ้อน “ไม่คิดมาก” กับทุกเรื่องจน

กตัญญูไม่ต้องรอเวลา เพราะบิดามารดาไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป สังคมสมัยนี้ชอบโพสต์ออกสื่อทางโซเชียลว่าตัวร่ำรวย เห็นบางคน โพสต์รูปอวดชีวิตหรูดูดี สโลว์ไลฟ์​ ไปห้างหรู กินอยู่แพง ทำทุกอย่างเพื่อให้คนอื่นรู้ว่ามี บางทีเราก็ไม่รู้หรอกว่าความจริงเป็นเช่นไร อาจจะรวยจริงๆ หรือ แค่อยากอวดเพื่อปกปิดชีวิตที่แท้จริงแต่แท้จริงแล้ว คนที่รวยจริงๆแล้ว คือคนที่สามารถเลี้ยงดูแลพ่อแม่ได้ต่างหาก หากรวยมากพอที่จะทำให้ชีวิตตัวเองดูดีได้ก็อย่าลืมตอบแทนบุญคุญพ่อแม่เลี้ยงดูท่านให้ดีเหมือนที่ท่านเลี้ยงดูเรามาในวันที่เราตื่นลืมตาขึ้นมาบนโลก ในวันที่เราหัดเดิน ในวันที่เราเริ่มเติบโต ในวันที่เราเข้าโรงเรียนและในวันที่เราโตเป็นผู้ใหญ่พ่อแม่ของเรานั้นต้องลำบากเลี้ยงดูเรามาโดยตลอด มีคำกล่

ชีวิตคู่ หมายถึง การอยู่เพื่อดูแลกันและกัน เรื่องจริงที่เจอมา เพื่อนเก่าได้กลับมาพบกัน ต่างก็พาภรรย าตนมาร่วมทานข้าว ผู้หญิงก็พูดคุยกันเรื่องบ้านและเรื่องสามีส่วนทางด้านฝ่ายชาย พวกเขาอยู่นอกระเบียงสูบบุหรี่ และพูดคุยกัน นาย A พูดกับ นาย B ว่า : ภรรย านายสวยมาก นาย